ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ “บ. เซ็นทรัลพัฒนา” ที่ระดับ “A+” พร้อมเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “Positive” จาก “Stable”
ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 14:17:15 น.
บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีตระกูลจิราธิวัฒน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 32% รองลงมาคือ บริษัท เซ็นทรัล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกของไทย (27%) การเป็นสมาชิกในเครือเซ็นทรัลทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากการมี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็นร้านค้าหลักภายในศูนย์การค้าของบริษัท ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทเป็นผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้าจำนวน 20 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และในจังหวัดสำคัญโดยมีพื้นที่
ค้าปลีกรวม 1,121,527 ตารางเมตร (ตร.ม.) บริษัทคงความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารศูนย์การค้าในประเทศมาอย่างต่อ เนื่อง บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากการมีอัตราการเช่าพื้นที่ใน ระดับสูงและรายได้ค่าเช่าของศูนย์การค้าเดิมที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ บริษัทมีอัตราการเช่าศูนย์การค้าโดยเฉลี่ยที่ระดับ 97.3% ต่อปีในช่วงปี 2551 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2555 ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 92.6% บริษัทเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่งในปลายปี 2555 ได้แก่ เซ็นทรัล พลาซา สุราษฎร์ธานี และเซ็นทรัล พลาซา ลำปาง ศูนย์การค้าดังกล่าวมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 99% และ 98% ตามลำดับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 รายได้ค่าเช่าของศูนย์การค้าเดิมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดย เพิ่มขึ้น 9% ในปี 2554 และ 11% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 รายได้ค่าเช่าและบริการของบริษัทสูงขึ้นเป็น 10,853 ล้านบาทในปี 2554 เพิ่มขึ้น 10% จาก 9,822 ล้านบาทในปี 2553 สาเหตุหลักมาจากการกลับมาเปิดให้บริการของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ภายหลังจากเหตุเพลิงไหม้เมื่อต้นปี 2553 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 รายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มถึงจุดสูงสุดที่ 11,284 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการกลับมาเปิดให้บริการของศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าวหลังจากการปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ รวมทั้งจากการเปิดส่วนขยายของศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา อุดรธานี และผลการดำเนินงานเต็มปีของศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา แกรนด์ พระราม 9
อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ค่าเช่าและค่าบริการและรายได้จากการขาย ของบริษัทเท่ากับ
51.91% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เพิ่มขึ้นจาก
42.24% ในปี 2554 และ
40.50% ในปี 2553
โดยความสามารถในการทำกำไรและผลการดำเนินงานดีขึ้นในทุกศูนย์การ ค้า กระแสเงินสดของบริษัทได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ขึ้นและการให้เช่าช่วงอาคารสำนักงาน “ดิ ออฟฟิสเซส แอท เซ็นทรัลเวิลด์” แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทำให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมดีขึ้นเป็น 14.81% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 จากประมาณ 12% ในช่วงปี 2553 และ 2554 อย่างไรก็ตาม การลงทุนเปิดศูนย์การค้าใหม่จำนวนมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนสูง ขึ้นเป็น 60%-64% ในช่วงปี 2553-2555
บริษัทมีความต้องการใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000-14,000 ล้านบาทต่อปีในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อพัฒนาและเปิดศูนย์การค้าใหม่ให้เพิ่มเป็น 30 แห่งภายในปี 2558 ทั้งนี้ บริษัทยังคงนโยบายในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนให้ต่ำกว่า 1 เท่า โดยบริษัทจะจัดหาเงินลงทุนดังกล่าวจากหลายแหล่ง ทั้งจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การกู้ยืม และการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
CPN135A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 A+
CPN136A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 A+
CPN145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A+
CPN164A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
CPN16OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
CPN176A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
CPN18OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+
CPN21OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น