ไทยโพสต์ 6 february 2556
เซ็นทรัลกรุ๊ป กางยุทธศาสตร์เทงบปีละ 4 หมื่นล้าน สยายปีกอาเซียน
ตั้งเป้าโต 24% ชูซีอาร์ซี และซีพีเอ็น เป็นหัวหอกหลักขยายธุรกิจ
คุยเนื้อหอม ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น รุมจีบร่วมทุน
นายสุทธิธรรม
จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล
และผู้บริหารทุกกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล
ร่วมแถลงข่าวประจำปีของกลุ่มเซ็นทรัล ปี 2556 ACE Challenge ว่า
แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท นับจากนี้จะดำเนินธุรกิจภายใน 3
ยุทธศาสตร์หลักประกอบด้วย 1.การขยายธุรกิจในประเทศ
2.การขยายธุรกิจในต่างประเทศ และ
3.การแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจในรูปแบบของการควบรวมกิจการ
ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาธุรกิจกับพันธมิตรประมาณ 10 ราย
เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยในจำนวนที่ทำการเจรจาดังกล่าว 4-5
ราย เป็นกลุ่มธุรกิจของซีอาร์ซี
ขณะเดียวกันในปี 2556 นี้
บริษัทจะเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่าปีละ 3 หมื่นล้านบาท
งบประมาณดังกล่าวถือเป็นงบลงทุนที่ต่อเนื่องมาจากช่วง 3 ปีทีผ่านมา
ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น
งบในการลงทุนขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ 3.8 หมื่นล้านบาท และอีก 1
หมื่นล้านบาท จะเป็นเม็ดเงินสำรองการเข้าซื้อกิจการต่างๆ
"นโยบายการลงทุนของบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล
จะมองหาโอกาสจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558
เป็นหลัก" นายสุทธิธรรม กล่าว
ล่าสุด
ได้ลงทุนในประเทศอินโดนีเซียหลังจากเซ็นสัญญาเช่ากับกลุ่ม PT Grand
Indonesia เพื่อเปิดห้างเซ็นทรัลแห่งแรกที่ “Grand Indonesia Shopping
Town” ในจาการ์ตา ใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาท และจะลงทุนอีก 600 ล้านบาท
เปิดห้างเซ็นทรัล สาขาเฉินตู ประเทศจีน ซึ่งเป็นสาขาในจีนแห่งที่ 3
ของกลุ่ม
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่เซ็นทรัลจะยึดเป็นหัวหอกหลักในการขยายธุรกิจนับจากนี้
ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ภายใต้การดูแลของบริษัท เซ็นทรัลรีเทล
คอร์ปอเรชั่น หรือซีอาร์ซี
ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนขยายธุรกิจคร่าวๆอยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ขณะที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น
อีกหนึ่งสาขาธุรกิจสำคัญของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1
หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 8,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนขยายธุรกิจในเครืออีก 2
กลุ่มคือ ธุรกิจค้าส่ง ธุรกิจโรงแรม นอกจากนี้ยังมีห้างรีนาเซนเต
ที่เข้าไปซื้อกิจการในประเทศอิตาลี เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา ในมิลาน
และฟลอเรนซ์ และอีก 1 สาขา กำลังก่อสร้างในกรุงโรม
สำหรับซีพีเอ็น
แม้ขณะนี้จะยังไม่มีธุรกิจในต่างประเทศเหมือนกับซีอาร์ซี
แต่จากการขยายสาขาของศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
ด้วยการยึดหัวหาดเจาะแนวตะเข็บชายแดน
เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายประเทศเพื่อนบ้าน
จากแผนขยายธุรกิจดังกล่าว
กลุ่มเซ็นทรัลคาดว่า ในปี 2556 จะมีอัตราการเติบโต 24%
หรือมียอดขายเพิ่มเป็น 227,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายภายในประเทศ 91%
และยอดขายในกิจการต่างประเทศ 9% และคาดว่าจะเติบโต 20-30% ต่อเนื่อง
นายปริญ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร ด้านการบริหารการเงินของกลุ่มเซ็นทรัล
กล่าวว่า จากความแข็งแกร่งของแบรนด์เซ็นทรัล
ส่งผลให้ขณะนี้มีนักธุรกิจหลายประเทศสนใจที่จะเข้ามาจับมือกับกลุ่มเซ็นทรัล
เช่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ขอร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
และให้กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาโครงการค้าปลีก ขณะที่พันธมิตรจากญี่ปุ่น
เริ่มเข้ามาเจรจาขอร่วมเป็นพันธมิตรลงทุนในด้านของธุรกิจอาหาร เสื้อผ้า
และร้านจำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่าง หรือสเปเชียลตี้ สโตร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น